Author name: admin

การกำหนดอายุความทางแพ่ง

การกำหนดอายุความทางแพ่ง

กำหนดอายุความ 2 ปี เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้จากการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เรียกเอาค่าเช่าเจ้าหนี้เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบแล้ว ตามสัญญาซื้อขาย หนี้ที่เกิดจากค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ หนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือโดยการให้ประกัน หนี้ค่าสินไหมทดแทนกรณี เรียกให้บริษัทประกันภัยรับผิด หนี้ตามสัญญาจ้างทำของ กำหนดอายุความ 5 ปี เช่น หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บัตรกดเงินสด หนี้ตามสัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ดอกเบี้ยค้างชำระ ค่าเช่าบ้าน ที่ดิน ค้างชำระเจ้าหนี้เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบแล้ว ตามสัญญาซื้อขาย ที่ซื้อไปใช้เพื่อประกอบกิจการของฝ่ายลูกหนี้ ตัวอย่าง ซื้อปูนซีเมนต์จากนำไปจำหน่ายหรือนำไปผสมเป็นคอนกรีตผสมเสร็จจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป ย่อมถือได้ว่าเป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของลูกหนี้ กำหนดอายุความ 10 ปี เช่น หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา หนี้เงินกู้ยืม สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน ตามสัญญาเช่าซื้อ อายุความในการบังคับคดีตามคำพิพากษา ดอกเบี้ยที่ประกาศแก้ไขใหม่ ปี 2564 พระราชกำหนดการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องดอกเบี้ย พ.ศ. 2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 เมษายน […]

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

การกำหนดอายุความทางแพ่ง Read More »

ขั้นตอนการพิจารณาอายุความ

การพิจารณาอายุความ จะต้องตรวจสอบเอกสารที่ได้รับ โดยตรวจสอบกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสาร และพิจารณาแยกประเภทของหนี้ระหว่างลูกค้ากับลูกหนี้ ว่าหนี้ที่จะดำเนินการให้ทวงถามนั้นเป็นหนี้ประเภทใด เช่น หนี้กู้ยืม หนี้บัตรเครดิต หนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ การทวงถามหนี้เรื่องใดๆนั้น จะมีระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ถ้าหากมิได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้หนี้นั้นขาดอายุความ ซึ่ง ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้นั้นได้เมื่อทราบว่าเป็นหนี้ประเภทใดแล้ว ให้พิจารณาอายุความที่เหลืออยู่ โดยอายุความหลักๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แก่ อายุความ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี หลังจากนั้น พิจารณาวันที่ผิดนัดชำระหนี้ โดยตรวจสอบจากเอกสารที่ลูกค้าส่งให้ว่า มีการชำระหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และมีกำหนดชำระหนี้ครั้งถัดไปเมื่อไหร่ กรณีผิดนัดชำระหนี้เงิน วันที่ผิดนัดชำระหนี้คือวันที่คือวันครบกำหนดชำระครั้งถัดไป โดยการนับอายุความให้นับจากวันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย ตัวอย่าง นาย ก. ได้ไปทำการกู้สินเชื่อบุคคลจาก ธนาคาร A ครบกำหนดให้ผ่อนจ่ายคืนทั้งหมด 24 งวดๆละ 1,000.บาท โดยต้องผ่อนจ่ายคืนไม่เกินวันที่ 8 ของทุกๆเดือน นาย ก. ได้ผ่อนจ่ายชำระเงินคืนไปแล้ว งวดที่ 1 จ่าย 1,000.บาท

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

ขั้นตอนการพิจารณาอายุความ Read More »

การจัดอันดับเครดิตถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของนอร์เวย์ปรับ Aquateknikk เป็น 10,000 ยูโร เนื่องจากมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยไม่มีฐานทางกฎหมายรองรับ Aquateknikk ได้ทำการจัดอันดับความน่าเชื่อถือบุคคลภายนอกซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ในฐานะลูกค้าหรือมีความเกี่ยวข้องอื่นใดกับบริษัท การกระทำดังกล่าวผิดต่อระเบียบการคุ้มครองข้อมูลที่กำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดต้องมีฐานทางกฎหมาย และที่สำคัญการให้คะแนนเครดิตเป็นข้อมูลทางการเงิน ซึ่งสามารถประเมิณได้ว่าบุคคลนั้นจะสามารถจ่ายเงินหนี้ได้มากน้อยเพียงใด โดยการจัดอันดับเครดิตจะรวมถึงข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงิน เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ หมายเหตุการณ์ชำระเงิน และการจำนองของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย Line ติดต่อ – สอบถาม E-mail ติดต่อสอบถาม ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่   

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

การจัดอันดับเครดิตถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล Read More »

สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

สิทธิของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล DPO ต้องได้รับความคุ้มครอง และควรมีมาตรการเพื่อให้ การปฏิบัติหน้าที่ของ DPO เป็นไปโดยอิสระ การให้ออกหรือเลิกจ้างเพราะเหตุที่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะทำมิได้ เป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกินหนึ่งล้านบาท (มาตรา 82) DPO จะต้องได้รับการสนับสนุนการทำงาน และได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเพียงพอต่อการทำงาน เช่น การสนับสนุนจากฝ่ายอื่นๆ การให้เวลาเพียงพอในการทำงานของ DPO การจัดหาทรัพยากรในการทำงานให้เพียงพอแก่การทำงาน ไม่ว่าจะในลักษณะของเงิน โครงสร้างพื้นฐาน และพนักงานสนับสนุน การสื่อสารองค์กร การเข้าถึงบริการอื่นๆ ของกิจการเพื่อ สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ DPO การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง หน้าที่ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องจัดการ นโยบายภายใน และต้องประเมินว่ากิจกรรมนั้นขององค์กรมีความเหมาะสมปลอดภัยหรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงแล้วจะต้องเพิ่มมาตรการใดให้สอดคล้องกับกฎหมาย การติดตามอย่างสม่ำเสมอ ต้องจัดการ ข้อร้องเรียน หรือการร้องขอ และต้องรายงาน ความล้มเหลว ตรวจสอบการ ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และให้ความร่วมมือ กับหน่วยงานกำกับดูแลต้องแจ้ง และให้คำแนะนำบริษัท ตามมาตรฐาน และวิธีการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ต้องประสาน และตรวจสอบ

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) Read More »

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 42 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) ให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้ (2) ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล  รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม  ใช้  หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ (3) ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้ (4) รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนล่วงรู้หรือได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์อย่างเพียงพอ รวมทั้งอำนวย ความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลออกจากงานหรือเลิกสัญญาการจ้างด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลต้องสามารถรายงานไปยังผู้บริหารสูงสุดของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลโดยตรงได้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอาจปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจอื่นได้ แต่ผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องรับรองกับสำนักงานว่าหน้าที่หรือภารกิจดังกล่าว ต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ จากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 42 DPO จึงต้องเข้าใจธุรกิจขององค์กร และต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ สามารถบอกได้ว่าว่าองค์กรมีลักษณะการทำงานยังไง แต่ละแผนก แต่ละฝ่ายทำกิจกรรมอะไรบ้าง มีความรู้เกี่ยวกับ กิจกรรมขององค์กร แต่ละกิจกรรมนั้น ทำให้องค์กรอยู่ในฐานะใด เช่น ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูล

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร Read More »

PDPA

มาตรการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

พระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล เป็นกฎหมายให้สิทธิและคุ้มครองเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดหน้าที่ของบริษัทฯ ซึ่งอาจมีฐานะเป็น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) จะต้องรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของข้อมูลเก็บเป็นความลับ โดยไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือเข้าถึงโดยผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ซึ่งเรามีตัวอย่าง มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล มาให้ทุกท่านรับทราบ ดังนี้ มาตราการป้องกันการสูญหายของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การสำรองข้อมูล และการทดสอบข้อมูลที่สำรองไว้ หรือการป้องกันไวรัส มัลแวร์ต่าง ๆ มาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การแยกลำดับ และจัดระบบชั้นของข้อมูลที่มีความสำคัญ รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว SENSITIVE มาตราการกำหนดแนวทางการจัดการสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดสิทธิ ยกเลิก ทบทวน ตรวจสอบ ติดตาม และจัดให้มีระบบตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูล และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการป้องกันการใช้ หรือแก้ไขข้อมูลโดยมิชอบ เช่น กำหนดสิทธิในการเรียกใช้ข้อมูล รวมถึงแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอใช้ข้อมูล กําหนดสิทธิข้อจำกัดในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่รับอนุญาต มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การตั้งค่ารหัสข้อมูล DATA ENCRYPTION หรือมาตรการพิสูจน์ตัวตนหลายขั้น มีการจัดทำ AUDIT LOG เพื่อเก็บบันทึกการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

มาตรการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล Read More »

วิธีตรวจสอบว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านหรือไม่

โปรดอ่านในหัวข้อ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ธุรกิจของท่าน มีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ ข้อมูลบุคคลธรรมดา เช่น ข้อมูลพนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ฝึกงาน ข้อมูลผู้มาติดต่อ เข้าอาคาร ข้อมูลจากการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในและภายนอก ข้อมูลจากการถ่ายรูป อัดวีดีโอ ติดภาพบุคคลอื่นๆ ข้อมูลจากลูกค้า คู่ค้า ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายของท่านและบุคคลภายนอกที่ติดต่อทำธุรกิจกับท่าน ธุรกิจของท่าน มีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ ข้อมูลบุคคลธรรมดา ประเภท เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญกรรม และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่? หากใช่ นั่นหมายความว่าท่านกำลังประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โปรดอ่านในขั้นตอนต่อไป ขั้นตอนที่ 2 ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านมีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านทราบหรือไม่ว่า กรณีใดบ้างที่ท่านต้องขอความยินยอม และ กรณีใดบ้างที่ท่านไม่ต้องขอความยินยอม ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านมีหน้าที่ใดบ้างที่ต้องดำเนินการ ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านมีเอกสารใดบ้างที่ท่านต้องปรับปรุง ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านต้องกำหนดวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความดูแลของท่าน ไม่ว่าท่านจะส่งต่อทั้งภายในองค์กรหรือส่งต่อไปยังหน่วยงานภายนอกองค์กร ท่านกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วใช่หรือไม่ หากท่านไม่ทราบ นั่นหมายความว่า กฎหมายคุ้มครองข้อมูลมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทท่าน แต่ ท่านยังไม่ได้เตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอในการรับมือกับกฎหมายนี้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อให้องค์กรของท่านมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับ

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านหรือไม่ Read More »

error: Content is protected !!