สำนักงานกฎหมาย KNInterlaw

ขั้นตอนการทวงหนี้

ขั้นตอนการทวงหนี้

ตามพระราชบัญญัติ การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 หมายความว่า เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ให้สินเชื่อผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเป็นปกติธุระตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และเจ้าหนี้อื่นซึ่งมีสิทธิรับชำระหนี้อันเกิดจากการกระทำที่เป็นทางการค้าปกติหรือเป็นปกติธุระของเจ้าหนี้ ทั้งนี้ไม่ว่าหนี้ดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม และให้หมายรวมถึง ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ดังกล่าว ผู้รับมอบอำนาจช่วงในการทวงถามหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ และผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ด้วย

การปฏิบัติงานทวงถามหนี้ จะมีขั้นตอน ดังนี้

1. ผู้ทวงถามหนี้จะต้องติดต่อกับลูกหนี้โดยตรงหรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้เท่านั้น โดยจะต้องแจ้งให้ลูกหนี้ทราบดังนี้

(1) แจ้งชื่อ – นามสกุล
(2) แจ้งชื่อหน่วยงานของตนและของเจ้าหนี้
(3) แจ้งจำนวนหนี้ที่ค้างชำระให้ถูกต้องครบถ้วน
(4) ในกรณีเป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ จะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจให้กับลูกหนี้ทราบก่อนจะทวงหนี้ ทั้งนี้จะแสดงให้กับบุคคลอื่นไม่ได้ เพราะจะเป็นการแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้

2. กรณีประกอบธุกิจทวงถามหนี้ จะต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. การติดต่อกับบุคคลอื่นที่มิใช่ลูกหนี้ ผู้ทวงถามหนี้ทำได้เพียงสอบถามหรือยืนยันเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยหรือเบอร์โทรศัพท์ของลูกหนี้หรือสถานที่ติดต่อเท่านั้น ไม่สามารถเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นได้ เว้นแต่บุคคลอื่นนั้นเป็นสามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดานของลูกหนี้ ได้สอบถามถึงสาเหตุของการติดต่อ สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้ได้เท่าที่จำเป็นและตามความเหมาะสมเท่านั้น หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. การทวงถามหนี้สามารถติดต่อตามสถานที่ที่ลูกหนี้ให้ไว้เท่านั้น เช่น ที่อยู่อาศัย ที่ระบุไว้ในสัญญา หรือ เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ เท่านั้น เป็นต้น จะไปติดต่อสถานที่อื่นหรือเบอร์โทรศัพท์อื่นไม่ได้ ถ้าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับทางปกครองไม่เกินหนึ่งแสนบาท เว้นแต่จะไม่สามารถติดต่อที่อยู่เดิมที่ให้ไว้ได้ แล้วได้พยายามติดต่อตามสมควรที่กฎหมายกำหนดแล้ว เท่านั้น
5. วันและเวลาในการติดต่อทวงถามหนี้ ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ให้ติดต่อได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น. และในวันหยุดราชการ เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 18.00 น. หากไม่สามารถติดต่อตามเวลาดังกล่าวได้หรือช่วงเวลาดังกล่าวไม่เหมาะสม ให้ติดต่อในช่วงเวลาอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เช่น กรณีที่ลูกหนี้ยินยอมให้ทวงหนี้ได้ในเวลาอื่นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ให้ติดต่อตามจำนวนครั้งที่เหมาะสม หากฝ่าฝืนมีโทษปรับทางปกครองไม่เกินหนึ่งแสนบาท
6. ถ้าลูกหนี้ได้ชำระหนี้แล้ว ต้องออกหลักฐานการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับทางปกครองไม่เกินหนึ่งแสนบาท
7. ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะดังต่อไปนี้

7.1 การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้อื่น
7.2 การใช้วาจาดูหมิ่นลูกหนี้หรือผู้อื่น
7.3 การติดต่อลูกหนี้โดยไปรษณียบัตร เอกสารเปิดผนึก โทรสาร หรือสิ่งอื่นใดที่สื่อให้ทราบว่าเป็นการทวงถามหนี้อย่างชัดเจน เว้นแต่กรณีการบอกกล่าวการบังคับจำนองด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ซึ่งเจ้าหนี้ไม่สามารถติดต่อลูกหนี้โดยวิธีการอื่น
7.4 การใช้ข้อความ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือชื่อทางธุรกิจของผู้ทวงถามหนี้บนซองจดหมายในการติดต่อลูกหนี้ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการติดต่อเพื่อทวงถามหนี้

8. ห้ามทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดังนี้
แสดงหรือใช้ข้อความ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือเครื่องแบบที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรืออ้างว่าเป็นการกระทำโดยทนายความ หรืออ้างว่าถ้าไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดี หรือถูกยึดอายัดทรัพย์หรือเงินเดือน หรืออ้างว่าผู้ทวงถามหนี้ดำเนินการให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต หรือรับจ้างบริษัทข้อมูลเครดิต กรณีนี้หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

9. ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม เช่น เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ เกินกว่าอัตราที่คณะกรรมการประกาศกำหนด รวมถึงการเสนอหรือจูงใจให้ลูกหนี้ออกเช็คทั้งที่รู้อยู่ว่าลูกหนี้อยู่ในฐานะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

10. ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ ซึ่งมิใช่ของตนโดยเด็ดขาด หากประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ หรือทวงถามหนี้ หรือสนับสนุนการทวงถามหนี้ซึ่งมิใช่ของตน เว้นแต่เป็นหนี้ของสามี ภริยา บุพการี หรือผู้สืบสันดานของตน หรือมีอำนาจกระทำได้ตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ท่านสามารถแชร์ความรู้, บทความและคำพิพากษาได้ที่นี่
  •  
  •  
  •  
error: Content is protected !!